ประวัติความเป็นมากว่าจะเป็นเครื่องเจ็ทเหมือนทุกวันนี้

เครื่องบิน เป็นพาหนะอีกชนิดหนึ่งของมนุษย์ ใช้เพื่อเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ที่อยู่อันไกลโพ้น สามารถบินไปในอากาศได้ เครื่องบินหนักกว่าอากาศ แต่สามารถบินได้ด้วยการอาศัยแรงยกจากปีก อีกทั้งยังได้รับการขับเคลื่อนไปข้างหน้า ด้วยแรงผลักจากเครื่องยนต์ไอพ่นหรือใบพัด

เครื่องบินมีหลายขนาด หลากรูปทรง และแน่นอนว่ามีปีกอีกหลายแบบ ลักษณะการใช้งานก็หลากหลาย เช่น เพื่อเดินทางพักผ่อน , ขนส่งสินค้า , ใช้ในการทหาร เป็นต้น นอกจากนี้เครื่องบินมีทั้งแบบ ใช้เครื่องยนต์ และปราศจากเครื่องยนต์

การพัฒนาของเครื่องบินเจ็ท

เครื่องบินเจ็ทซึ่งสามารถทำงานได้อย่างดีเยี่ยมเครื่องแรกของโลก คือ Heinkel He 178 จากประเทศเยอรมัน , โดยมันได้รับการทดสอบในปี 1939 , ปี 1943  ได้แก่รุ่น Messerschmitt Me 262 เป็นเครื่องบินรบเจ็ทที่ได้รับการบรรจุในกองทัพเยอรมัน เดือนตุลาคมปี 1947 จึงเกิดรุ่น Bell X-1 บินได้เร็วกว่าเสียง

สำหรับสายการบินเจ็ทแห่งแรก เกิดขึ้นในปี 1952 มีนามว่า Boeing 707, เป็นเครื่องเจ็ทเชิงพาณิชย์เครื่องแรก ที่ประสบความสำเร็จในวงกว้าง โดยให้บริการในทางพาณิชย์มาอย่างยาวนานกว่า 50 ปี ตั้งแต่ปี 1958 – 2010 Boeing 747 เป็นเครื่องบินโดยสารขนาดใหญ่ที่สุดในโลกตั้งแต่ปี 1970 จน Airbus A380 ถือกำเนิดขึ้นมาในปี 2005.

โดยเครื่องบินขับไล่ ถูกใช้งานเป็นครั้งแรกเพื่อใช้ในการขนปืน มีลักษณะ 2 ที่นั่ง ข้อเสียของเครื่องบินชนิดนี้ในยุคแรกๆ คือบินได้ช้า ทำให้ทางกองทัพต้องการประสิทธิภาพที่รวดเร็วกว่านี้ เพื่อไล่เครื่องบินของฝ่ายตรงข้าม ทำให้เกิดการสร้างเครื่องบินทางทหารอีกชนิดหนึ่งขึ้นมา อันเป็นต้นกำเนิดของเครื่องบินขับไล่ทรงพลัง มันมีพื้นฐานมาจากเครื่องบินที่สามารถบินได้อย่างรวดเร็วใช้เพื่อในการแข่งขัน ทำให้เครื่องบินของกองทัพ จากที่ใช้ขนส่งอาวุธเพียงอย่างเดียว ได้รับการพัฒนามีความเร็วที่เพิ่มมากขึ้นอย่างก้าวกระโดด เพื่อบินออกไปสอดแนมแล้วกลับมารายงานได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังทำให้มันสามารถหลบหลีกปืนใหญ่ต่อต้านอากาศยานรวมทั้งเครื่องบินติดอาวุธของข้าศึกได้อีกด้วย

หลังจากที่สงครามปะทุขึ้น นักบินของเครื่องบินสอดแนมก็มีการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ด้วยการพกอาวุธทั้ง ปืนพก , ปืนยาว และระเบิดมือเพื่อโจมตีเครื่องบินของศัตรู เนื่องจากอาวุธติดเครื่องบินสอดแนมในระยะแรกยังไม่มี แต่มาจึงมีการติดปืนกลบนเครื่องบินขับไล่ซึ่งยิงออกนอกวงโค้งของใบพัดได้ นอกจากนี้นักประดิษฐ์ทั้งฝรั่งเศสและเยอรมนีก็สร้างระบบกลไก ซึ่งสามารถยิงกระสุนออกไปในระยะเวลาเดียวกัน เมื่อเกิดช่องในการหมุนวนของใบพัด ทำให้ใช้ในการรบได้อย่างทรงพลังมากขึ้นกว่าเดิม