ประวัติ เครื่องบิน Vought F4U Corsair

 ประวัติ เครื่องบิน Vought F4U Corsair

Vought F4U Corsair เป็นเครื่องบินขับไล่ที่เป็นใบพัดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ขึ้นชื่อว่าเป็น “นกเหล็กปีกงอจอมอหังการ” ของทหารเรือชาวอเมริกาเลยก็ว่าได้ ด้วยกำลังเครื่องและการยิงที่สูงทำให้มันได้ถูกย้ายมาประจำการบนเรือบรรทุกเครื่องบิน เจ้าเครื่องบินคอร์แซร์นี้ มียอดการผลิตนับหมื่นเครื่องในทุกๆรุ่นของเจ้าเครื่องบินลำนี้ ถูกใช้งานแพร่หลายกันไปในเหล่าทหารอากาศทั่วโลก และมันยังมีส่วนเข้าร่วมในการรบต่างๆเรื่อยมา

สำหรับก่อนหน้านั้นในปี 1938 ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ในเวลานั้นกรมการบินทหารเรืออเมริกามีความต้องการเครื่องบินขับไล่ 1 หรือ 2 เครื่องยนต์ โดยที่ 1 เครื่องยนต์นั้นความเร็วต้องไม่น้อยกว่า 110 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง ระยะทำการต้องไม่ต่ำกว่า 1,600 กิโลเมตร และต้องสามารถติดตั้งปืนกลอากาศได้ไม่น้อยกว่า 4 กระบอกขึ้นไป สำหรับปีกทั้ง 2 ด้าน หรือหากใช้ได้เพียงด้านละ 3 กระบอกนั้น จำเป็นที่จะต้องมีกระสุนที่มากพอ สำหรับในการป้องกันอากาศยาน และนอกจากนั้นยังต้องทำการติดตั้งระเบิดขนาดเล็กได้อีกเช่นกัน

ดังนั้นจึงได้มีการนำคอร์แซร์เครื่องต้นแบบให้กับทหารเรือ ในเดือน มิถุนายน ปีเดียวกันนั้นเอง โดยมีการนำของหัวหน้าวิศวกรอย่าง เร็กซ์ บีเซล และเหล่าทีมงานของ วอท์ซ ซึ่งมีแฟรง์ค อัลไบรท์ เป็นหัวหน้าโครงการ, วิศวกรด้านอากาศพลศาสตร์ คือ พอล์ท เบเกอร์, วิศวกรเครื่องยนต์ คือ เจม ชูเมเกอร์ ซึ่งเมื่อคนมากฝีมือเหล่านี้ได้มารวมตัวกัน ทำให้ เร็กซ์ บีเซล นั้นสามารถออกแบบได้อย่างเสร็จสมบูรณ์ ก่อนที่จะได้ทำการนำเสนอให้กับ ยูเอส นาวี ในเวลาต่อมา และได้ถูกกำหนดแบบขึ้นมาเป็น Vought V-166A ซึ่งในตอนแรกนั้น วิศวกรเครื่องยนต์อย่าง เจมส์ ซูเมเกอร์ จะนำเครื้องยนต์อย่าง แพร์ท แอน์ด วิทนีย์ อาร์ -1830 ซึ่งสามารถสูบดาวและระบายความร้อนด้วยอากาศมาติดตั้ง ซึ่งเจ้าเครื่องยนต์ตัวนี้นั้นมีความน่าเชื่อถือสูงมากเพราะมัน มีกำลังถึง 597 แรงม้า แต่ในภายหลังนั้นได้นำเอา R 2800 มาติดตั้งแทน เนื่องจากมีขนาดเดียวกัน แต่ขึ้นชื่อว่ามีกำลังมากที่สุดในโลก (ในสมัยช่วงปี 1940 นั้น) และสุดท้ายเจ้าคอร์แซร์ จึงได้ถูกกำหนดเป็น  Vought V-166B XF-4U หมายเลข 1443 และเสนอแก่กองบินนาวี  และถูกสร้างแบบจำลองขึ้นมา พร้อมด้วยติดตั้งเครื่องยนต์ XR-2800 ที่มี 4 ลูกสูบดาว ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 1938 นั้นเอง สำหรับเครื่องต้นแบบนั้นเรียกได้ว่าสำหรับสมัยนั้นแล้วเป็นเครื่องบินขับไล่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่กองทัพอเมริกานั้นนำเข้าประจำการเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ ขนาดลำตัว ปีก หรือแม้กระทั้งใบพัด ที่ถูกพัฒนาให้ใหญ่กว่ารุ่นก่อนๆ มาก ต่อมาเครื่องบินที่มีต้นแบบมาจาก Vought F4U Corsair นี้ได้มีการพัฒนาตามมาอีกไม่ว่าจะเป็นการปรับขนาดตัวถังน้ำมันให้เล็กลงและอีกมากมาย

จนกระทั้ง ยูเอสนาวีนั้น ได้ยื่นข้อเสนอให้ทำการผลิต คอร์แซร์ใน เดือนพฤศจิกายน ปี1940 นั้น และได้ทำการลงนามทำหนังสือสัญญาในวันที่ 3 มีนาคม ปี 1941 วอทซ์ได้รับสัญญาจ้างการทำการผลิต คอร์แซร์ในวันที่ 2 เมษายนในปีเดียวกัน และเซ็นสัญญาการส่งมอบวันที่ 2 มิถุนายน ในปีเดียวกัน โดยทางทหารเรืออเมริกันนั้น ได้มีความต้องการเครื่องทั้งหมด 584 ลำในรุ่น F4u-1A ซึ่งต้องทำการผลิตมากในตอนนั้นหากเทียบกับพื้นที่โรงงานรวมกับลานบินที่ใช้ทดสอบแล้ว พื้นที่ของโรงงานนั้นไม่ราบเรียบเท่าที่ควร และไม่มีพื้นที่ในการรองรับมากพอที่จะใช้ทดลองเครื่องได้

โดยต่อมา F4u-1A นั้นได้ออกจากโรงงานผลิตในเดือนกันยายน  ปี 1942 ตลอดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น การผลิตเจ้าเครื่องบิน คอร์แซร์ ได้ถูกผลิตเครื่องในทุกรุ่นของ F4U มาตราฐานถึง 12,751 ลำด้วยกัน ภายใต้การผลิตร่วมกันของบริษัท วอท์ซ  ที่เมืองดัลลาส , บริษัท บิวสเตอร์ ที่เมือง ลองไอร์แลนด์ นิวยอร์ค และ บริษัท กู๊ดเยียร์ ที่เมือง โอไฮโอ