
กองบิน 41 ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 10 หมู่ที่ 3 ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองในจังหวัดเชียงใหม่ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 9 กิโลเมตร ภารกิจของกองบิน 41 คือมีหน้าที่ในการเตรียมรับและปฏิบัติการใช้กำลังตามอำนาจและหน้าที่ของกองทัพอากาศโดยที่มีผู้บังคับบัญชาการกองบินเป็นผู้รับผิดชอบ ภารกิจในด้านอื่นนั้นก็จะมีการถวายอารักขาและการถวายพระเกียรติฯบรรเทาสาธารณภัยคอยช่วยเหลือประชาชน ทำหน้าที่ในการป้องกันประเทศและแก้ไขปัญหายาเสพติด รวมถึงการมีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศ
จุดเริ่มต้นและความเป็นมาของกองบิน41 เริ่มมาจากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เรื่อยมาจนกระทั่งในวันที่ 6 มีนาคม พุทธศักราช 2485 ช่วงเวลาประมาณบ่าย 3 นั้นเครื่องบินรบจากฝ่ายสัมพันะมิตรรุ่นมัสแตง P – 51 จากฝูงบินกองเสือบิน ของทหารสหรัฐที่มีฐานทัพอยู่ที่เมืองคุนหมิงเมืองหลวงที่ใหญ่ที่สุด ในมณฑลยูหนานประเทศจีนซึ่งมีทั้งหมดด้วยกัน 7 ลำ ได้มีการทิ้งระเบิดลงในบริเวณสนามบินของจังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้บังคับบัญชาของนายพล แคลร์ แอล เชนโนล์ด นับเป็นครั้งแรกที่ได้เกิดการโจมตีอากาศจากฝ่ายสัมพันธมิตรที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีครั้งที่ 2 ในปีถัดมา วันที่ 21 เดือนธันวาคม พุทธศักราช 2486 เวลาใกล้เคียงกับในครั้งแรกคือช่วง 4 โมงเย็น ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งที่ 2 นั้นทำให้ผู้คนในบริเวณสถานีรถไฟเชียงใหม่ หรือที่ผู้คนต่างเรียกกันว่าปลายรางเสียชีวิตลงเป็นจำนวนมากศพมากมายจนกองเป็นพะเนินจึงจำเป็นต้องนำไปไว้ที่สุสานช้างคลาน ส่วนศพของเหล่าทหารญี่ปุ่นนั้นก็ถูกนำไปไว้ที่วัดหมื่นสารที่ในเวลานั้นได้กลายเป็นโรงพยาบาลชั่วคราวและอีกเพียงแค่ 3 เดือนก็ได้มีการทิ้งระเบิดอีกครั้งเป็นครั้งที่ 3 ที่บริเวณหนองประทีปนอกจากนี้ยังมีการโจมตีนอกสนามบินเชียงใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 10 ครั้ง จนกระทั่งเข้าสู่ยุคของสงครามเย็นในปี พุทธศักราช 2497 มีการยกเลิกห้าบินของประเทศไทย
และสนามบินเชียงใหม่จึงได้กลับมาเปิดใช้บริการได้อย่างเป็นทางการในวันที่ 11 เดือนมีนาคม พุทธศักราช 2503 โดยตอนนั้นกองทัพอากาศได้ทำการรับมอบสนามบินเชียงใหม่มาจากรัฐบาลของสหรัฐ และก็ได้ใช้เป็นฐานบินสำหรับขับไล่ไอพ่นที่เรียกได้ว่าทันสมัยที่สุดของยุคนั้น เครื่องบินขับไล่แบบที่ 17 ( F-86f ) จากฝูงบินขับไล่ในกองบินที่ 12 และ 13 กองบินน้อยที่ 1 ดอนเมือง ซึ่งในขณะนั้นก็มีหน้าที่ในการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันปฏิบัติภารกิจป้องกันภัยทางภาคเหนือ โดยมีกองทัพอากาศอังกฤษซึ่งเป็นพันธมิตร ในองค์การสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือที่เรียกกันโดยย่อว่า SEATO ได้ทำการส่งเครื่องบินขับไล่แบบอื่นๆและแบบฮันเตอร์มาช่วยเหลือและประจำการที่สนามบินเชียงใหม่อีกด้วย ในวันที่ 1 เดือนตุลาคม พุทธศักราช 2512 กองทัพอากาศยานยกฐานะฝูงบินผสมที่ 221 ขึ้นมาเป็น ฐานบินเชียงใหม่และได้มีการบรรจุอัตราของผู้บังคับบัญชาการของฐานบินขึ้นอย่างเป็นทางการ ครั้งแรก และในวันที่ 16 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2514 ได้มีการบรรจุประจำการโดยที่เป็นเครื่องบินโจมตีแบบ 5 ( OV – 10C )ที่ฝูงบิน 21 กองบินที่ 2 จึงมีการจัดส่งเครื่องบินแบบเดิมนี้มาปฏิบัติการที่สนามบินเชียงใหม่รวมไปถึงสนามบินพิษณุโลกอีกด้วย
ฐานบินเชียงใหม่นั้นได้ถูกโอนให้ไปขึ้นกับกองบิน 4 ที่จังหวัดนครสวรรค์ ณ อำเภอตาคลี ในปี พุทธศักราช 2519 และได้มีการเปลี่ยนชื่อให้เป็นกองบินที่ 4 ฝูงบิน 41 เมื่อ วันที่ 1 เดือนมิถุนายน พุทธศักราช 2519 ในปี พุทธศักราช 2520ได้มีการยกฐานะขึ้นมาเป็น กองบิน 41 และทุกวันที่ 1 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2520 นั้นจะถือว่าเป็นวันสถาปนากองบิน 41 และได้มีการปลดประจำการเครื่องบินโจมตีแบบที่ 5 ( OV – 10 C ) และได้มีการบันจุเครื่องบินขับไล่แบบที่ ( L – 39 ) ทดแทนไป ในวันที่ 8 เดือนเมษายน พุทธศักราช 2547